วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

The Liit

THE LIIT


                เพื่อให้มีหน้าตา และรสชาติที่ตอบโจทย์ได้โดนใจแก่ผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งแต่ละร้าน ก็ต่างพากันงัดเอาสูตรเด็ดออกมาฟาดฟันกัน เพื่อดึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด แต่นอกจากเรื่องรสชาติ และหน้าตาของอาหารแล้ว บรรยากาศ และการบริการก็เป็นอีกปัจจัยหลัก ที่ผู้บริโภคมักจะคำนึงถึงก่อนการตัดสินใจเดินเข้าร้านใด ร้านหนึ่ง


              และวันนี้ สิ่งที่สะดุดตาทีมงานให้ต้องรีบสาวเท้าเข้าไปอย่างไว ก็ด้วยเพราะบรรยากาศของร้าน The Liit ที่ดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านอาหารน้องใหม่ใน K Village สุขุมวิท 24 ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน พอๆ กับสถานที่ แต่ขอบอกเลยว่า ฝีไม้ลายมือเรื่องรสชาติของอาหาร โดยเชฟชาวอิตาเลี่ยน และแนวคิดในการตกแต่งร้านนั้นไม่ธรรมดาเลย ก็แหมโ€ฆหากเดินผ่านจากภายนอกร้าน ก็ต้องสะดุดตาแล้วกับการโชว์ตู้ที่บรรจุไวน์หลากหลายสายพันธุ์ แถมกำแพงอีกด้าน ก็ยังมีวิดิโอรูปอาหารหน้าตาชวนน้ำลายสอทั้งนั้น แล้วจะอดใจได้อย่างไร


เมื่อก้าวเข้ามาในร้าน เรารู้สึกได้เลยกับบรรยากาศที่แสนอบอุ่นสไตล์โฮมมี่ คือ อาจเพราะด้วยสีที่ใช้ในโทนอบอุ่น อย่างสีเทา สีครีม สีน้ำตาล ด้วยกระมัง อีกทั้งยังมีโต๊ะให้เลือกนั่งตามจำนวนคนที่มา ซึ่งก็มีแบบหลายอารมณ์ด้วยกัน หากมากระหนุ๋งกระหนิ๋งกันสองคน ก็เลือกนั่งมุมที่ถูกจัดไว้อย่างโรแมนติก หรือจะมาแบบเป็นกลุ่มใหญ่ ก็มีที่นั่งไว้รองรับมากมาย



                อีกทั้ง เคาน์เตอร์บาร์ที่กว้างขวาง พร้อมโชว์การผสมเครื่องดื่มให้ได้เห็นกันจะจะ แต่ที่สะดุดตาที่สุด และดูเหมือนว่าจะเป็นจุดเด่นของร้านก็คือ ครัวที่เปิดโล่ง โดยกั้นไว้แค่เพียงกระจกใสบานใหญ่เท่านั้น เพราะทางร้านบอกว่า ต้องการให้ผู้บริโภคได้รู้ และได้เห็น กรรมวิธีการปรุงอาหารกันแบบสดๆ เพื่อให้รู้จริง เห็นจริง ว่าที่มาของรสชาติแห่งความอร่อยของอาหารแต่ละจานนั้น ไม่ได้มีการใช้สารเคมีใดๆ เป็นส่วนผสม ซึ่งก็จริงดังว่า เพราะเท่าที่เห็น รู้สึกว่าเชฟอิตาเลี่ยน จะคอยเดินไปเดินมา คอยเช็คคุณภาพของส่วนผสมอยู่ตลอดเวลา




          สำหรับเมนูดีๆ ที่นำมาแนะนำกันในวันนี้ เมนูแรกที่เพิ่งออกจากห้องครัวมาสดๆ ร้อนๆ คือ Pumpkin Soup with Soft Cheese and Crispy Bacon หรือ ซุปฟักทอง


                ขอบอกเลยว่าเมื่อคำแรกผ่านเข้าปาก มันชวนให้หลับตาพริ้ม เนื่องจากรสชาตินั้นเหมือนอาหารแบบตะวันตกชัดๆ แต่ไอ้เจ้าฟักทองนี่ก็คงจะคุ้นกันดี ซึ่งเมนูนี้ถูกปรุงออกมาด้วยรสชาติที่กลมกล่อม ละมุนลิ้นยิ่งนัก และเมื่อตามเข้าไปด้วยชีสนิ่มๆ ที่ลอยอวดโฉมอยู่ด้านบน มันอยากจะสั่งเพิ่มอีกเลยทีเดียว


                จบไปกับเมนูแรกที่สร้างความประทับใจได้แบบจั๋งหนับ เลยขอตามติดด้วยเมนูที่สองเลยละกัน เพราะอยากรู้ว่ารสชาติต่อไปจะเป็นอย่างไร ด้วย Linguine with Spicy Sauce of Clams and Mussels หรือ สปาเก็ตตี้ผัดหอยลาย และหอยแมลงภู่ 



            ทันทีที่ส้อมปักลงไปเกี่ยวพันเส้นสายของสปาเก็ตตี้ สัมผัสได้ทันทีของความเหนียวนุ่ม พอเลี้ยวเข้าปากเท่านั้นมันก็จริงดั่งใจคิด ด้วยเส้นที่มีความเหนียวนุ่มกำลังดี บวกกับรสชาติอันกลมกล่อม แถมยังแก้เลี่ยนได้ด้วยการขบพริกทอดแบบไทยที่เหน็บข้างมาอย่างดี ทำให้เมนูนี้มีสีสันขึ้นมาในทันใด

ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนู คือ Chicken Leg Confit with Pumpkin Cake, Stuffed Onion and White Wine Sauce หรือ ไก่ย่างราสซอส ที่เสริฟมาเคียงคู่กับเครื่องเคียงสไตล์อินเตอร์อย่าง หัวหอมยัดไส้ด้วยซอสไวน์ขาว และเค๊กฟักทอง ซึ่งรสชาติมันถูกลิ้นในทันที ไม่ว่าจะเป็นไก่ที่ถูกราดมาด้วยน้ำซอสที่ปรุงรสอย่างพิถีพิถัน ตามด้วยเครื่องเคียงที่แนบมา มันอร่อยแบบที่คุณจะต้องลืมไม่ลงเลยทีเดียว



จบเรื่องของคาว มาต่อกันที่เมนูหวานกันบ้างกับ Tiramisu แต่ขอบอกเลยว่าชื่อเสียงเรียงนามที่คุ้นหูของเมนูนี้นั้น มันต่างจากที่อื่นโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่รูปแบบ และรสชาติ ซึ่งมันให้ความแปลกใหม่ที่อร่อยถูกปากจริงๆ


ปิดท้ายด้วยการล้างคอกับ Pink Lemonate และ Mint Juliper ซึ่งเป็นเครื่องดื่มม็อกเทลที่ปราศจากแอลกอฮอลล์ ให้ความสดชื่น ด้วยรสชาติเปรี้ยวหวาน ชื่นใจ


                     หากคุณต้องการที่จะลิ้มลองอาหารสไตล์ฟิวชั่นที่รสชาติไม่เหมือนใคร แถมยังเปิดครัวโชว์ให้เห็นถึงกระบวนการผลิต ก่อนที่จะเสริฟกันมาถึงโต๊ะ ลองแวะมาที่ The Liit ร้านอาหารที่ให้บรรยากาศแบบอบอุ่น ตั้งอยู่ที่ K Village สุขุมวิท 26 หลังบิ๊กซีพระราม 4 ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. หรือเข้าไปเยี่ยมชมร้านได้ที่ www.theliit.com, Facebook/The Liit โทร.0 2665 644

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น